DeeMoney คืออะไร ปลอดภัยไหม : ค่าธรรมเนียม : วิธีสมัครใช้งาน : วิธีโอนเงิน

เป็นผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ

DeeMoney เป็นผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการทำธุรกรรมที่สะดวกและรวดเร็ว DeeMoney มีอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าธนาคารทั่วไป มีบริการทั้งผ่านแอปพลิเคชันและสาขา ทำให้การโอนเงินไปต่างประเทศง่ายขึ้น และสะดวกสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย

DeeMoney คืออะไร

DeeMoney คือ บริษัทฟินเทคในประเทศไทย ที่ให้บริการด้านการโอนเงินระหว่างประเทศไทยและนานาชาติมากกว่า 100 ประเทศ ให้บริการทั้งการโอนออกและรับเข้า เพื่อยกระดับการโอนเงินระหว่างประเทศของไทย

ประวัติความเป็นมา

  • ในปี 2017 DeeMoney ได้รับใบอนุญาตตัวแทน เพื่อโอนเงินระหว่างประเทศ จากธนาคารแห่งประเทศไทย
  • ในปี 2018 DeeMoney เปิดตัวแอปพลิเคชัน DeeMoney ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
  • เปิดตัวด้วยจุดเด่นค่าธรรมเนียมคงที่รายแรกในในประเทศไทย
  • ปัจจุบัน DeeMoney มีพาร์ทเนอร์ทั่วโลก สำหรับการดำเนินธุรกรรมการเงินระหว่างไทยและนานาชาติ มากกว่า 100 ประเทศ

วิสัยทัศน์ (Vision)

“เป็นผู้นำด้านการโอนเงินระหว่างประเทศที่ปฏิวัติวิธีการให้บริการและทำให้โลกเชื่อมต่อกันได้โดยมีความสะดวกสบายและค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม”

พันธกิจ (Mission)

“ทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และประหยัด ผ่านเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและบริการลูกค้าที่ดีที่สุด”

DeeMoney ปลอดภัยไหม

DeeMoney มีมาตรการความปลอดภัยหลายอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่า การทำธุรกรรมของพวกเขานั้นจะปลอดภัย ซึ่งมีมาตรการความปลอดภัย ได้แก่

  1. การรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล : DeeMoney ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) และกระทรวงการคลัง เพื่อให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
  2. เทคโนโลยีการเข้ารหัส : DeeMoney ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงินของลูกค้า
  3. มาตรการป้องกันการฟอกเงิน : DeeMoney มีการตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดการป้องกันการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering, AML) อย่างเคร่งครัด
  4. การตรวจสอบความปลอดภัย : DeeMoney มีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
  5. การช่วยเหลือลูกค้า : DeeMoney มีทีมงานสนับสนุนลูกค้า ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

ข้อดีของDeeMoney

  • ค่าธรรมเนียมต่ำ : DeeMoney มีค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศที่ต่ำกว่าธนาคารและบริการอื่นๆ ทำให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการโอนเงิน
  • อัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ : DeeMoney มีอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าหลายธนาคาร ทำให้เป็นที่น่าสนใจจากบุคคลทั่วไป ซึ่งลูกค้าจะได้รับเงินมากขึ้นจากการโอนเงิน
  • ความสะดวกสบาย : ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงิน ได้ทั้งผ่านแอปพลิเคชันมือถือและที่สาขาของ DeeMoney สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ความปลอดภัยสูง : DeeMoney ใช้มาตรการความปลอดภัยขั้นสูง และปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทำให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยของการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
  • การสนับสนุนหลายช่องทาง : DeeMoney มีทีมสนับสนุนลูกค้า ที่ให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โทรศัพท์ อีเมล และการตอบแชท ทำให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือที่รวดเร็วทันเวลา และมีประสิทธิภาพ

ข้อเสียของ DeeMoney

  • ขีดจำกัดในการโอนเงิน : DeeMoney อาจมีขีดจำกัดในการโอนเงินต่อรายการหรือรวมต่อวัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการโอนเงินจำนวนมาก
  • เครือข่ายที่จำกัด : แม้ว่า DeeMoney จะครอบคลุมหลายประเทศ แต่ก็อาจไม่ครอบคลุมทุกประเทศหรือทุกพื้นที่ที่ผู้ใช้ต้องการโอนเงินไป
  • เวลาทำการ : การโอนเงินอาจใช้เวลาหลายวันทำการในการดำเนินการ ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางและระบบธนาคารในแต่ละประเทศ
  • ต้องใช้อินเทอร์เน็ต : การใช้งานแอปพลิเคชันของ DeeMoney ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางสถานการณ์ หรือบางพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี
  • ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในบางกรณี : แม้ว่าค่าธรรมเนียมจะต่ำ แต่ในบางกรณี เช่น การโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารบางแห่ง อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่ไม่คาดคิด

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยน : ควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนที่ DeeMoney เสนอให้ ก่อนการทำธุรกรรมทุกครั้ง เพราะอัตราแลกเปลี่ยนอาจมีการเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อจำนวนเงินที่ได้รับ
  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียม : แม้ว่า DeeMoney จะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ แต่ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียมในการโอนเงินไปยังธนาคารบางแห่ง เป็นต้น
  • ความปลอดภัยของข้อมูล : ควรรักษาข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงินของตนเองให้ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลสำคัญกับบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจ หรือการให้ข้อมูลตนเองผ่านช่องทางที่ไม่ปลอดภัย
  • ระยะเวลาทำการโอนเงิน : ตรวจสอบระยะเวลาที่ใช้ในการโอนเงินไปยังประเทศปลายทาง และวางแผนการโอนเงินล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย
  • การใช้งานแอปพลิเคชัน : ควรใช้งานแอปพลิเคชัน DeeMoney ในสถานที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร และหลีกเลี่ยงการใช้งานในเครือข่ายสาธารณะ เนื่องจากอาจจะทำให้ไม่ปลอดภัย

ค่าธรรมเนียม DeeMoney

DeeMoney มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำและเชื่อถือได้ ในการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ทำให้บริการของ DeeMoney ได้รับความนิยม ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางและประเภทของการโอนเงิน ตัวอย่างเช่น :

  1. โอนเงินไปบัญชีธนาคาร: ค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง แต่โดยทั่วไปจะต่ำกว่าค่าธรรมเนียมของธนาคารและบริการโอนเงินอื่นๆ
  2. โอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน DeeNext : ค่าธรรมเนียมจะคำนวณตามจำนวนเงินที่โอนและประเทศปลายทาง โดย DeeMoney มักจะมีโปรโมชั่นและอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน
    • ปัจจุบันมีโปรโมชั่น ค่าบริการสำหรับ DeeNext เป็นอัตราคงที่ 125 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยกำหนดการโอนขั้นต่ำที่ 1,000 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ไม่มีการหักเงินเพิ่มเติม บัญชีปลายทางจะได้รับเงินเต็มจำนวน
  3. โปรโมชั่นและส่วนลด : DeeMoney บางครั้งมีโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงินในช่วงเวลาที่กำหนด

วิธีการสมัครใช้งาน DeeMoney

  • ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น deemoney จาก Google Play Store (สำหรับระบบ Android) หรือ App Store (สำหรับระบบ iOS) จากนั้นเข้าแอพพลิเคชั่น deemoney คลิก “ลงทะเบียน” เพื่อเริ่มทำการสมัครใช้งาน

  • ใส่หมายเลขโทรศัพท์ ที่ใช้รับหมายเลข OTP ทาง SMS
  • คลิก “รับรหัส OTP”
  • ใส่รหัส OTP ที่ได้รับจาก SMS

  • หากมีผู้แนะนำในการใช้แอพพลิเคชั่น สามารถใส่รหัสผู้แนะนำได้ที่ช่องนี้
  • หากใส่รหัสผู้แนะนำ คลิก “ส่ง” แต่หากไม่ได้ใส่รหัสผู้แนะนำ คลิก “ข้าม” เพื่อไปหน้าถัดไป
  • ทำเครื่องหมายในช่องสี่เหลี่ยมทั้ง 2 ช่อง เพื่อเป็นการยืนยันและยอมรับเงื่อนไขในการใช้งาน
  • คลิก “ยอมรับ” เพื่อดำเนินการต่อไป

  • คลิก “ยินยอม” เพื่ออนุญาตให้ Deemoney แนะนำประชาสัมพันธ์ต่างๆ ผ่าน SMS
  • คลิก “ยินยอม” เพื่ออนุญาตให้ Deemoney เปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
  • คลิก “ส่งเอกสารของคุณ” เพื่อไปหน้าถัดไป
  • คลิก “มาเริ่มกันเลย” เพื่อเริ่มทำการยืนยันตัวตน

  • หน้านี้จะให้ผู้ใช้งานเลือกสัญชาติของตนเอง คลิก “ไทย” เพื่อดำเนินการต่อไป

  • ใส่ชื่อจริง เป็นภาษาอังกฤษ
  • ใส่นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ
  • ใส่อีเมลล์ของผู้ใช้งาน
  • เลือกสัญชาติอีกครั้ง
  • ใส่ วัน/เดือน/ปีเกิด (ต้องตรงกับบัตรประชาชน)

  • เลือกเพศของผู้ใช้งาน
  • เลือกสถานภาพสมรสของผู้ใช้งาน
  • เลือกสถานะผู้อยู่อาศัยที่ตรงกับตนเอง ได้แก่ นักท่องเที่ยว ผู้อยู่อาศัย หรืออาศัยอยู่เพื่อทำงาน
  • เลือกอาชีพที่ใกล้เคียงกับผู้ใช้งานมากที่สุด
  • เลือกรายได้เฉลี่ยนต่อเดือน ที่ตรงกับผู้ใช้งานมากที่สุด
  • คลิก “ต่อไป” เพื่อดำเนินการต่อไป

  • เลือกประเภทที่อยู่ ที่ตรงกับตัวผู้ใช้งานมากที่สุด
  • เลือกจังหวัดที่อาศัยอยู่
  • เลือกเขตหรืออำเภอที่อาศัยอยู่
  • เลือกตำบลที่อาศัยอยู่
  • ใส่รหัสไปรษณีย์
  • ใส่บ้านเลขที่
  • คลิก “ต่อไป” เพื่อดำเนินการต่อไป

  • ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หากที่อยู่ในทะเบียนบ้านตรงกับที่อยู่ปัจจุบันที่เราใส่ข้อมูลไว้แล้ว “คลิก” ในช่องสี่เหลี่ยม ว่าที่อยู่เดียวกับที่อยู่ปัจจุบันได้เลย หากที่อยู่คนละที่กันจะต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติม
  • คลิก “ต่อไป” เพื่อดำเนินการต่อไป

  • เป็นการใส่ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่สถานที่ทำงาน หากที่อยู่สถานที่ทำงานตรงกับที่อยู่ที่เราใส่ข้อมูลไว้แล้ว “คลิก” ในช่องสี่เหลี่ยม ว่าที่อยู่สถานที่ทำงานอยู่ที่เดียวกับที่อยู่ปัจจุบันได้เลย หากที่อยู่เป็นคนละที่กัน จะต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติม
  • คลิก “ต่อไป” เพื่อดำเนินการต่อไป

  • คลิก “ถ่ายเซลฟี่” เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน ในการเซลฟี่จะต้องให้ใบหน้าอยู่ภายในกรอบ
  • คลิก “เริ่มบันทึก” เพื่อถ่ายวิดีโอเซลฟี่หน้าตนเอง
  • คลิก “เปิดใช้งานกล้อง” ในการถ่ายวิดีโอจะต้องค่อยๆ หันหน้าซ้ายขวาอย่างช้าๆ ตามขั้นตอน

  • คลิก “อัปโหลดบันทึก” เพื่อส่งวิดีโอในการยืนยันตัวตน

  • ขั้นตอนนี้เป็นการตรวจสอบยืนยันบัตรประชาชน คลิก “เริ่มถ่ายภาพ” เพื่อเริ่มการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน

  • ทำการถ่ายภาพด้านหน้าของบัตรประชาชน ในการถ่ายจะต้องให้บัตรอยู่ในกรอบและเห็นข้อมูลบนบัตรครบถ้วน จากนั้นคลิก “ส่งรูปภาพ” เพื่อดำเนินการต่อ
  • ทำการถ่ายภาพด้านหลังของบัตรประชาชน โดยจะต้องให้บัตรอยู่ในกรอบและเห็นข้อมูลบนบัตรที่ชัดเจนเช่นกัน จากนั้นคลิก “ส่งรูปภาพ” เพื่อดำเนินการต่อ

  • ระบบจะแจ้งว่า “ขอคุณ เราจะติดต่อกับหาคุณในไม่ช้า” หมายความว่า ผู้ใช้งานได้ดำเนินการสมัครเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ รอเจ้าหน้าที่ติดต่อมา เพื่อทำการยืนยันโปรไฟล์ จากนั้นก็จะสามารถใช้บริการของ Deemoney ในการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ได้แล้ว

วิธีการโอนเงิน DeeMoney

การโอนเงินผ่าน DeeMoney มีความสะดวกและรวดเร็ว และสามารถติดตามสถานะการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา โดยมีวิธีการโอนเงิน ดังนี้

  1. สมัครสมาชิก :
  • ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DeeMoney จาก Google Play Store หรือ Apple App Store
  • สมัครสมาชิก และยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลส่วนบุคคล และเอกสารประกอบ เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต
  1. เลือกบริการโอนเงิน :
  • เปิดแอปพลิเคชัน DeeMoney และเลือก “โอนเงินต่างประเทศ” จากเมนูหลัก
  • เลือกประเทศปลายทางที่ต้องการโอนเงิน
  1. กรอกรายละเอียดผู้รับเงิน :
  • ใส่ข้อมูลผู้รับเงิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, และรายละเอียดบัญชีธนาคาร
  • ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนดำเนินการต่อ
  1. กรอกจำนวนเงิน :
  • ใส่จำนวนเงินที่ต้องการโอน
  • แอปจะแสดงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
  1. เลือกวิธีการชำระเงิน :
  • สามารถชำระเงินผ่านบัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต หรือวิธีการอื่นๆ ที่แอปรองรับ
  • ทำการยืนยันการชำระเงิน
  1. ตรวจสอบและยืนยันการโอนเงิน :
  • ตรวจสอบรายละเอียดการโอนเงินทั้งหมด
  • ยืนยันการโอนเงิน
  1. รอการดำเนินการ :
  • เงินจะถูกส่งไปยังผู้รับเงินภายในเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปจะใช้เวลา 5-7 วันทำการ
  1. รับการยืนยัน :
  • คุณจะได้รับการยืนยันจากระบบ เมื่อการโอนเงินสำเร็จ และผู้รับเงินสามารถตรวจสอบยอดเงินที่ได้รับในบัญชีธนาคาร

บทสรุป DeeMoney

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า DeeMoney เป็นผู้ให้บริการการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศที่มีความน่าสนใจ มีความปลอดภัย และน่าเชื่อถือ สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็ว

และได้รับความนิยมมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการโอนเงินไปต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการโอนเงินด้วยค่าธรรมเนียมต่ำและอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความนิยมให้กับ DeeMoney นั่นเอง