PayPal คืออะไร : ข้อดี ข้อเสีย : ค่าธรรมเนียม : วิธีสมัครใช้งาน : วิธีโอนเข้าธนาคาร

PayPal เป็นระบบการชำระเงินออนไลน์

PayPal เป็นระบบการชำระเงินออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถโอนเงิน และชำระค่าสินค้าหรือบริการ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 ในชื่อ Confinity, PayPal ซึ่งได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกการชำระเงินหลัก สำหรับการซื้อขายออนไลน์ ด้วยระบบมีความปลอดภัยระดับสูงและมีความสะดวกในการใช้งาน ทำให้ PayPal เป็นที่ไว้วางใจสำหรับผู้บริโภคและผู้ขายมากมายทั่วโลก

PayPal คืออะไร

PayPal เป็นระบบการชำระเงินออนไลน์ ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถโอนเงิน และชำระค่าสินค้าหรือบริการ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต เข้ากับบัญชี PayPal และใช้บัญชีนี้ เพื่อชำระเงินหรือรับเงิน โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของตนกับบุคคลที่สาม เหตุนี้จึงทำให้ผู้ใช้งานต่างเชื่อถือและไว้ใจการใช้งานบนระบบของ PayPal

นอกจากนี้ PayPal ยังมีคุณสมบัติการป้องกันการฉ้อโกง เพื่อเป็นการปกป้องผู้ใช้งาน ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์จากทั่วโลก โดยมีข้อดีและข้อเสียสำหรับการใช้งาน ดังนี้

ข้อดีของ PayPal

  1. ความสะดวกสบาย : PayPal ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเงินและชำระค่าสินค้าหรือบริการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารกับบัญชี PayPal ของตน เพื่อทำการชำระเงินได้ทันที โดยไม่ต้องใส่ข้อมูลบัตรในแต่ละครั้งที่ชำระเงินออนไลน์
  2. ความปลอดภัย : PayPal ใช้ระบบเข้ารหัสข้อมูลและมาตรการความปลอดภัยอื่นๆ เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลและรายละเอียดการเงินของผู้ใช้ จากการถูกดักฟังหรือการขโมย
  3. การปกป้องผู้ซื้อ : หากสินค้าที่ซื้อผ่าน PayPal ไม่ได้ถูกส่งมาหรือไม่ตรงตามที่ระบุในรายละเอียด PayPal มีนโยบายที่อนุญาตให้ผู้ซื้อยื่นขอคืนเงินเต็มจำนวนได้ ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ในการช้อปปิ้งออนไลน์
  4. การยอมรับทั่วโลก : PayPal เป็นระบบการชำระเงินที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ผู้ใช้สามารถใช้ PayPal สำหรับการชำระเงินในหลายประเทศและหลายภาษา ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ชอบช้อปปิ้งหรือทำธุรกรรมออนไลน์ กับผู้ขายจากต่างประเทศ
  5. การทำธุรกรรมที่เร็ว : การโอนเงินหรือรับเงินผ่าน PayPal มักจะเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้เป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดการการเงิน ทั้งส่วนตัวและธุรกิจ

ข้อเสียของ PayPal

  1. ค่าธรรมเนียม : PayPal มีค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมบางประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับเงินจากธุรกรรมทางธุรกิจ หรือจากต่างประเทศ ซึ่งอาจสูงกว่าวิธีการชำระเงินอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน หากทำธุรกรรมข้ามประเทศ
  2. การจำกัดบัญชี : PayPal มีนโยบายในการจำกัดหรือปิดบัญชีผู้ใช้ ที่อาจมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย การจำกัดหรือปิดบัญชีนี้ อาจทำให้เงินในบัญชีของผู้ใช้ไม่สามารถนำออกมาได้ และไม่สามารถใช้ได้จนกว่าจะมีการชี้แจงหรือแก้ไขปัญหา เป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลานาน และต้องการเอกสารจำนวนมาก
  3. ความเป็นส่วนตัว : แม้ว่า PayPal จะมีมาตรการความปลอดภัยที่ดี แต่การที่ PayPal มีข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเงินและการซื้อขาย อาจก่อให้เกิดข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวสำหรับบางคน
  4. การยอมรับที่จำกัดในบางประเทศ : ในบางประเทศ PayPal อาจจะยังไม่ได้รับการยอมรับ สำหรับการเป็นวิธีการชำระเงิน หรือมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้งาน เช่น การถอนเงินอาจมีข้อจำกัดหรือต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน
  5. การแข่งขันและทางเลือก : ด้วยการมาของบริการการชำระเงินอื่นๆ เช่น Google Pay, Apple Pay และ Venmo ที่บางครั้งมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า หรือให้บริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ได้ดีกว่า PayPal จึงอาจทำให้ PayPal เสียเปรียบในบางสถานการณ์

ค่าธรรมเนียม PayPal

ค่าธรรมเนียมของ PayPal สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามลักษณะการใช้งาน และมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของบริษัท ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงิน, การรับเงิน, การแปลงสกุลเงิน และอื่นๆ ผู้ใช้งานควรศึกษาเรื่องค่าธรรมเนียมของ PayPal ก่อนตัดสินใจทำธุรกรรมทุกครั้ง โดยค่าธรรมเนียมต่างๆ จะมีหลักการเบื้องต้น ดังนี้

1. การโอนเงินและการรับเงิน

  • การโอนเงินหรือส่งเงิน : การส่งเงินในประเทศไม่มีค่าธรรมเนียมหากใช้ยอดคงเหลือใน PayPal หรือบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยง แต่อาจมีค่าธรรมเนียมหากใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
  • การรับเงิน : โดยปกติจะมีค่าธรรมเนียมการรับเงินประมาณ 2.9% ของจำนวนเงินที่ได้รับบวกกับค่าธรรมเนียมตายตัวเล็กน้อย (เช่น $0.30) สำหรับธุรกรรมในสหรัฐอเมริกา

2. การแปลงสกุลเงิน

  • การทำธุรกรรมข้ามประเทศ หรือการแปลงสกุลเงิน : หากทำการโอนหรือรับเงินในสกุลเงินที่ต่างจากสกุลเงินหลักของบัญชี PayPal โดยทั่วไปจะมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินที่ประมาณ 3-4% ขึ้นอยู่กับสกุลเงิน

3. การถอนเงิน

  • การถอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร : หากถอนเงินต่ำกว่า 5,000 บาท จะมีค่าธรรมเนียม 50 บาทต่อรายการ สำหรับการถอนเงินตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารในประเทศเดียวกัน แต่อาจมีค่าธรรมเนียมสำหรับการถอนเงินข้ามประเทศ
  • การถอนเงินด่วน : บางประเทศมีตัวเลือกในการถอนเงินด่วน ที่จะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าการถอนปกติ

4. ค่าธรรมเนียมอื่นๆ

  • การชำระเงินที่ไม่ใช่แบบออนไลน์ : การใช้ PayPal สำหรับการชำระเงินนอกระบบออนไลน์ เช่น PayPal Here สำหรับร้านค้าภายนอก อาจมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน

วิธีสมัครใช้งาน PayPal

การสมัครใช้งาน PayPal นั้น ค่อนข้างง่ายและสะดวก สามารถดำเนินการได้บนเว็บไซต์ของ PayPal ซึ่งในการใช้งาน PayPal ผู้ใช้งานจะต้องทำการสร้างบัญชี พร้อมทั้งยืนยันตัวตน โดยมีขั้นตอนการสร้างบัญชี และการยืนยันตัวตน ดังต่อไปนี้

วิธีสร้างบัญชี PayPal

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ www.paypal.com คลิกที่ “สร้างบัญชี”

  • เลือก “บัญชีบุคคล”
  • เลือก “ถัดไป”

  • ใส่อีเมลล์ของคุณ
  • เลือก “ถัดไป”

  • ใส่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณ “ไม่ต้องใส่เลข 0 ข้างหน้า”
  • เลือก “ถัดไป”

  • ใส่รหัส OTP ที่ได้รับจากหมายเลขโทรศัพท์ข้างต้น

  • ตั้งรหัสผ่าน 8 อักขระขึ้นไป โดยใช้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ เพื่อความปลอดภัย

  • กรอกข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่
    • ชื่อ
    • นามสกุล
    • วันเดือนปีเกิด
    • หมายเลขบัตรประชาชน
  • เลือก “ดำเนินการต่อ”

  • ใส่ที่อยู่ (ตรงกับบนบัตรประชาชน)
  • เลือก “ยินยอม และยอมรับ ข้อตกลงสำหรับผู้ใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัว”
  • เลือก “รับโปรโมชั่นและข้อเสนอจาก PayPal”
  • เลือก “ยอมรับและเปิดบัญชี”

  • ระบบขึ้นว่า “เปิดบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้ว” เมื่อถึงขั้นตอนนี้ หมายความว่า คุณได้เปิดบัญชี PayPal เรียบร้อยแล้ว

วิธีการยืนยันตัวตน

1. ไปที่หน้าหลักของเว็บไซต์ www.paypal.com คลิกตรงลูกศร บนแถบสีแดง

2. เลือก “ดำเนินการต่อ”

3. อ่านเงื่อนไขของ NDID จากนั้น เลือก “ยอมรับและดำเนินการต่อ”

4. เลือกธนาคารหรือผู้ให้บริการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน คลิกไปที่ “ธนาคาร” ที่สะดวก

5. เลือก “เสร็จสิ้น” จากนั้นดูที่โทรศัพท์ของคุณ และทำการยืนยันตัวตนต่อบนแอพธนาคาร ที่เลือกไว้ในข้อ 4.

6. เข้าไปในแอพธนาคารที่เลือกไว้ คลิก “ดำเนินการ”

7. ใส่หมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก

8. ใส่วัน/เดือน/ปี ที่ออกบัตร

9. ใส่เลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน 12 หลัก

10. เลือก “ต่อไป”

11. ใส่รหัส OTP ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์

12. เลือก “ต่อไป” เพื่อทำการแสกนใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตน เมื่อแสกนใบหน้าผ่าน ก็ถือว่าขั้นตอนการยืนยันตัวตนนั้น สำเร็จแล้ว

วิธีโอนเข้าธนาคาร

สำหรับประเทศไทย จะยังไม่สามารถโอนเงินเข้าไปในบัญชี PayPal ได้โดยตรง หากลูกค้าต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยชำระเงินผ่าน PayPal ก็สามารถใช้บัตรเครดิตเชื่อมต่อกับระบบของ PayPal เพื่อทำการชำระเงินได้ แต่หากลูกค้ารับเงินมา ต้องการถอนเงินจาก PayPal เข้าสู่บัญชีธนาคารของตนเอง สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

1. เข้าสู่ระบบเว็บไซต์ www.paypal.com หากมีการโอนเงินมายังบัญชี PayPal ก็จะมีจำนวนเงินแสดงอยู่ที่ยอดเงินคงเหลือ จากนั้น คลิก “โอนเงิน”

2. เลือกสกุลเงินที่เราต้องการ

3. เลือก “ถัดไป”

4. เลือกบัญชีที่เราต้องการโอนเงินเข้าไป (หากมีค่าธรรมเนียมในการโอน จะแสดงให้เห็นทันทีในหน้านี้)

5. เลือก “ถัดไป”

6. ใส่จำนวนเงินที่เราต้องการโอนเข้าบัญชี

7. เลือก “ถัดไป”

8. ตรวจสอบการโอน โดยดูความถูกต้อง คือ

  • บัญชีปลายทางที่เราต้องการโอนเข้าไป
  • จำนวนเงินที่จะโอน
  • จำนวนเงินที่จะได้รับ
  • จากนั้น เลือก “โอนเงิน…ทันที”
  • โดยปกติแล้ว การโอนเงินจาก PayPal เข้าบัญชีธนาคาร จะใช้เวลาประมาณ 5-7 วันทำการ เงินจึงจะเข้าบัญชีปลายทาง

ข้อควรระวัง ในการใช้ PayPal

  1. ระวังการหลอกลวง (Phishing) :
    • ไม่ควรคลิกลิงก์ในอีเมลล์ที่น่าสงสัยหรือไม่คุ้นเคย อาจเป็นการหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ หรืออาจเป็นลิ้งก์อันตรายสำหรับบัญชีธนาคารของคุณ
    • กรุณาตรวจสอบ URL ให้แน่ใจว่า เป็นเว็บไซต์ PayPal จริง (https://www.paypal.com) ไม่ใช่ URL ปลอม ที่มีการหลอกเอาข้อมูลของผู้ใช้งาน หรือหลอกเอาข้อมูลบัญชีทางการเงินของผู้ใช้งาน
  2. ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย :
    • ควรเลือกรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก และไม่ซ้ำกับบริการอื่นที่ใช้งานอยู่
    • ควรเปิดการใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่ง
  3. ตรวจสอบการทำธุรกรรมเป็นประจำ :
    • ควรมีการเข้ามาตรวจสอบบัญชี PayPal ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่า มีการทำธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่ หรือมีการทำรายการใด ที่ไม่ได้เกิดจากตัวคุณหรือไม่
    • หากพบความผิดปกติ เราจะสามารถติดต่อกับทาง PayPal เพื่อหยุดความเสียหายนั้นได้ทันเวลา
  4. ระมัดระวังในการทำธุรกรรมกับบุคคลที่ไม่รู้จัก :
    • ควรหลีกเลี่ยงการโอนเงินให้กับบุคคลที่คุณไม่รู้จัก หรือโอนเงินให้กับบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
    • หากจำเป็นจะต้องโอนเงินให้คนที่ไม่รู้จักจริงๆ ควรจะมีการตรวจสอบ หรือมีข้อมูลการยืนยันตัวตน ก่อนตัดสินใจโอนทุกครั้ง
  5. รักษาข้อมูลส่วนตัวและการเงินให้ปลอดภัย :
    • ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อบัญชีผู้ใช้ หรือรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ ให้กับบุคคลอื่นได้รับรู้
    • ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของคุณ เช่น ชื่อบัญชี และเลขบัญชีธนาคาร ให้กับบุคคลอื่นได้รับรู้
    • ตรวจสอบเครือข่ายในการใช้งาน ว่าเครือข่ายถูกต้อง ปลอดภัยหรือไม่ เราควรใช้เครือข่ายที่ปลอดภัย ในการเข้าถึง PayPal เพื่อการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ

สรุป เกี่ยวกับ PayPal

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า PayPal นั้น เป็นระบบที่เข้ามาเป็นสื่อกลางในการชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ และเป็นตัวกลางในการรับหรือส่งเงินจากต่างประเทศได้ดี การใช้งานสะดวกไม่ยุ่งยาก ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการสมัครสร้างบัญชี การยืนยันตัวตน หรือการโอนเงินต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย

ทำให้การทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่าย สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้าน หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ก็สามารถจัดการเกี่ยวกับกับธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศได้