ธนาคารไทยเครดิต : ประวัติองค์กรและพัฒนาการ

ธนาคารไทยเครดิต เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินของรายย่อย และธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นด้วยพันธกิจที่จะให้บริการทางการเงินที่มีคุณภาพ และครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเน้นให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย

ธนาคารไทยเครดิต

ธนาคารไทยเครดิต หรือชื่อเต็มว่า ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร โดยธนาคารไทยเครดิตมีวัตุประสงค์ในการจัดตั้ง เพื่อการให้บริการสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (MSME) และสินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อธุรกิจรายย่อย (Nano and Micro Finance) แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ เป็นรากฐานของประเทศ

ประวัติองค์กรและพัฒนาการ

  • ธนาคารไทยเครดิต เริ่มก่อตั้งขึ้น ในวันที่ 18 มกราคม 2550 ภายใต้ขอบเขตการประกอบธุรกิจและขอบเขตการทำธุรกรรมของธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (“ธปท.”) ประกาศกำหนด
  • เปิดดำเนินการเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยใช้ชื่อว่า “ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน)” ในวันที่ 1 กันยายน 2566

การขยายตัวขององค์กร

ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) มีการขยายตัวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างเศรษฐกิจของรายย่อย และธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะในด้านการเข้าถึงบริการทางการเงิน ธนาคารได้ดำเนินการขยายตัวในหลายเรื่อง ดังนี้

  • การขยายสาขาและจุดบริการ : เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และเข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ธนาคารได้เพิ่มจำนวนสาขาและจุดบริการทั่วประเทศ
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ : ธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ารายย่อย และธุรกิจขนาดเล็ก เช่น สินเชื่อเพื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก
  • การใช้เทคโนโลยี : ธนาคารได้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการปรับปรุงการให้บริการ รวมถึงการใช้แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
  • การเพิ่มการรับรู้และภาพลักษณ์ : ธนาคารพยายามเพิ่มการรับรู้ถึงการให้บริการของตนเอง ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

บริการที่น่าสนใจ

ธนาคารไทยเครดิต ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย และบริการที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าทั้งบุคคลและธุรกิจ ได้แก่

บริการด้านสินเชื่อ

  • สินเชื่อเพื่อธุรกิจ Micro SME : สินเชื่อเพื่อธุรกิจ Micro SME ของธนาคารไทยเครดิต มุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อขยายธุรกิจและเสริมสภาพคล่อง โดยสินเชื่อนี้ มีลักษณะเฉพาะ คือ
    • วงเงินสินเชื่อ : มักจะกำหนดวงเงินที่เหมาะสมกับขนาดและความต้องการของธุรกิจ Micro SME
    • อัตราดอกเบี้ย : มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับกลุ่มธุรกิจรายย่อย
    • ระยะเวลาผ่อนชำระ : อาจมีการกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น
    • เงื่อนไขการสมัคร : มีการกำหนดเงื่อนไขที่เอื้อต่อผู้ประกอบการ Micro SME เช่น มีเอกสารที่ต้องการเพียงบางรายการ
    • การอนุมัติสินเชื่อ : ขั้นตอนการอนุมัติมีความรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเร่งด่วนของธุรกิจ

  • สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน : สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน หรือเรียกว่า สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home Equity Loan) เป็นสินเชื่อที่ให้กู้เงิน โดยใช้บ้านหรือที่อยู่อาศัยที่มีอยู่เป็นหลักประกัน สินเชื่อนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินกู้จำนวนมาก ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อบุคคลทั่วไป บริการสินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน จากธนาคารไทยเครดิต มีคุณสมบัติ คือ
    • วงเงินกู้ : มักจะขึ้นอยู่กับมูลค่าของบ้านที่นำมาเป็นหลักประกัน โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 80% ของมูลค่าประเมิน
    • อัตราดอกเบี้ย : โดยทั่วไปจะต่ำกว่าสินเชื่อบุคคล เพราะมีบ้านเป็นหลักประกัน
    • ระยะเวลาผ่อนชำระ : สามารถผ่อนชำระได้ยาวนาน เช่น 15-30 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร
    • การใช้งานเงินกู้ : สามารถใช้เงินกู้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงบ้าน ชำระหนี้ หรือการลงทุนธุรกิจ
    • คุณสมบัติผู้สมัคร : ผู้สมัครต้องมีกรรมสิทธิ์ในบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักประกัน

  • สินเชื่อบุคคล : เป็นสินเชื่อที่ออกแบบมา เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของบุคคลทั่วไป โดยไม่มีความจำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน สินเชื่อบุคคลเหมาะสำหรับการใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การรวมภาระหนี้ที่มีอยู่ การจัดการค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือการใช้เงินเพื่อกิจกรรมต่าง คุณสมบัติที่สำคัญของสินเชื่อบุคคล ได้แก่:
    • วงเงินกู้ : มักขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้
    • อัตราดอกเบี้ย : เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ต้องใช้หลักประกัน และขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อและผู้ให้บริการ
    • ระยะเวลาผ่อนชำระ : โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 1-5 ปี ขึ้นอยู่กับวงเงินและเงื่อนไขของผู้ให้บริการ
    • เอกสารที่ต้องใช้ : ปกติจะมีการขอเอกสารเกี่ยวกับรายได้ ประวัติการทำงาน และข้อมูลส่วนบุคคล
    • เงื่อนไขการสมัคร : ผู้สมัครต้องมีอายุและรายได้ตามที่กำหนด โดยอาจมีการตรวจสอบประวัติเครดิต

  • สินเชื่อนาโนและไมโครเครดิต เพื่อธุรกิจรายย่อย : สินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อธุรกิจรายย่อยเป็นสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กและรายย่อยที่อาจไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบดั้งเดิม วัตถุประสงค์หลักคือช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจหรือเริ่มต้นกิจการใหม่ สินเชื่อนี้มีคุณสมบัติดังนี้:
    • วงเงินกู้ : วงเงินที่กู้มักจะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น แต่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการรายย่อย
    • อัตราดอกเบี้ย : จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ให้บริการ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม
    • ระยะเวลาผ่อนชำระ : มักมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ
    • เงื่อนไขการสมัคร : มีขั้นตอนและเงื่อนไขที่ง่ายกว่าสินเชื่อบุคคล เพราะต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ขาดแหล่งเงินทุน
    • การใช้วงเงิน : สามารถใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจ เสริมสภาพคล่อง หรือขยายกิจการ

  • สินเชื่อที่มีทองคำเป็นหลักประกัน : สินเชื่อที่มีทองคำเป็นหลักประกัน หรือที่เรียกว่า สินเชื่อจำนำทองคำ เป็นสินเชื่อที่ผู้กู้สามารถนำทองคำที่ตนมีอยู่ มาใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงิน วัตถุประสงค์ของสินเชื่อนี้ คือ ให้ผู้กู้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน และมีคุณสมบัติ ดังนี้
    • วงเงินกู้ : ขึ้นอยู่กับมูลค่าของทองคำที่ใช้เป็นหลักประกัน โดยวงเงินที่ได้อาจอยู่ในช่วง 60-80% ของมูลค่าทองคำ
    • อัตราดอกเบี้ย : โดยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป เนื่องจากมีทองคำเป็นหลักประกัน
    • ระยะเวลาผ่อนชำระ : มักมีระยะเวลาการชำระที่ยืดหยุ่นและสามารถต่ออายุได้
    • เงื่อนไขการสมัคร : มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และสามารถอนุมัติได้รวดเร็ว
    • การใช้งานวงเงิน : สามารถใช้วงเงินที่ได้ เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามความต้องการของผู้กู้

บริการด้านเงินฝาก

  • เงินฝากกระแสรายวัน : เป็นบัญชีประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารเงินสด สำหรับกิจกรรมประจำวันของตนเองหรือธุรกิจ ได้อย่างสะดวก
  • เงินฝากออมทรัพย์ : เป็นบัญชีธนาคารที่ให้ลูกค้าสามารถฝากเงินและถอนเงินได้สะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝากเงินเพื่อเก็บออมพร้อมกับการเข้าถึงเงินได้สะดวก
  • เงินฝากประจำ : เป็นบัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกำหนดระยะเวลาฝากเงินที่ชัดเจน อาจเป็น 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับธนาคารและประเภทของบัญชี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับดอกเบี้ยสูงขึ้น และสามารถถือเงินไว้ในบัญชี โดยไม่จำเป็นต้องถอนก่อนครบกำหนด
  • เงินฝากปลอดภาษี : เป็นบัญชีธนาคารที่มุ่งเน้นส่งเสริมการออมเงินของลูกค้า ด้วยสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ดอกเบี้ยที่ได้รับจากบัญชีนี้จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา บัญชีประเภทนี้มักมีระยะเวลาฝากที่กำหนด เช่น 24 เดือนหรือ 36 เดือน

บริการด้านการลงทุน

  • กองทุนรวม : ธนาคารไทยเครดิต เป็นตัวแทนจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (LBDU) ให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 5 แห่ง ได้แก่
    1. บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด (ABRDN)
    2. บลจ. กรุงศรี จำกัด (KSAM)
    3. บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM)
    4. บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC)
    5. บลจ. วรรณ จำกัด (ONEAM)

บริการอื่นๆ

  • ทรัพย์สินรอการขาย : สินทรัพย์ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินได้รับมาจากลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ สินทรัพย์เหล่านี้มักเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ หรือทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งธนาคารจะนำออกจำหน่ายเพื่อลดความสูญเสียและนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระหนี้ที่ค้างอยู่
  • บริการบัตรต่างๆ : ทางธนาคารไทยเครดิต มีบริการบัตรต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการใช้จ่ายเงิน ให้กับลูกค้า ซึ่งมีบริการ 2 บัตร ได้แก่
    1. บัตรเครดิต : บัตรที่ให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายเงินล่วงหน้าได้ ภายในวงเงินที่กำหนด และชำระหนี้ตามรอบบิล ซึ่งมักจะมีสิทธิประโยชน์ เช่น ส่วนลด, คะแนนสะสม, และโปรโมชั่นพิเศษ
    2. บัตรเดบิต : เป็นบัตรที่ใช้เพื่อชำระเงิน โดยหักจากบัญชีธนาคารโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินจากยอดเงินที่มีอยู่จริง
  • บริการด้านการโอนเงิน : ธนาคารไทยเครดิต มีบริการด้านการโอนเงิน 4 บริการ ได้แก่
    1. บริการโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์ Bulk Payment System
    2. บริการโอนเงินผ่านบาทเนต
    3. บริการโอนเงินระหว่างบัญชีอัตโนมัติ
    4. บริการโอนเงินรายย่อย ระหว่างธนาคาร (ORFT)
  • บริการไทยเครดิตพร้อมเพย์ : เป็นบริการที่ให้ความสะดวกในการโอนเงินและรับเงิน โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือหมายเลขบัตรประชาชนแทนเลขบัญชีธนาคาร

  • บริการอื่นๆ ของธนาคาร : คือ มีบริการเช่าตู้เซฟ เป็นบริการที่ให้ลูกค้าเก็บรักษาสิ่งของที่มีมูลค่า หรือเอกสารสำคัญอย่างปลอดภัย ซึ่งตู้เซฟตั้งอยู่ในห้องนิรภัยที่ได้รับการออกแบบ เพื่อป้องกันการโจรกรรม และความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ค่าธรรมเนียมเช่าตู้เซฟจะแตกต่างกันไปตามขนาดและระยะเวลาการเช่า

การค้าต่างประเทศ

  • สินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ (Trade Credit) : เป็นบริการของธนาคาร ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้า
    • สินเชื่อเพื่อการนำเข้า (Import Financing) : ให้ธุรกิจที่นำเข้าสินค้าได้รับวงเงินเพื่อชำระค่าสินค้าจากต่างประเทศ โดยสามารถใช้เอกสารต่างๆ เช่น Letter of Credit (L/C) เป็นหลักประกัน
    • สินเชื่อเพื่อการส่งออก (Export Financing) : ช่วยให้ธุรกิจที่ส่งออกสินค้า ได้รับเงินทุนล่วงหน้า ก่อนการส่งมอบสินค้า หรือเพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศได้
  • บริการเงินโอนระหว่างประเทศเพื่อการนำเข้าและส่งออก : เป็นบริการโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อการนำเข้าและส่งออก เป็นบริการที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถชำระเงิน หรือรับชำระเงินจากคู่ค้าต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ : ทางธนาคารมีบริการเสนออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้กับลูกค้า

ความโดดเด่น ธนาคารไทยเครดิต

  • มุ่งเน้นรายย่อย : ธนาคารไทยเครดิต ให้ความสำคัญกับธุรกิจรายย่อยและลูกค้ารายย่อย โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกลุ่มนี้ เช่น สินเชื่อธุรกิจรายย่อย เป็นต้น
  • บริการทางการเงินที่ครอบคลุม : มีบริการด้านเงินฝาก, สินเชื่อ, การลงทุน และบริการอื่น ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
  • การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก : ธนาคารมีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมา เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจ SME ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
  • การใช้เทคโนโลยี : มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการ เช่น แอปพลิเคชันมือถือ และอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายและสะดวก
  • ความน่าเชื่อถือ : เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มไทยเครดิตธนกิจ (TCB Group) ที่มีประวัติและประสบการณ์ในธุรกิจการเงิน

สรุป ธนาคารไทยเครดิต

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ สามารถสรุปได้ว่า ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย (TCB) มุ่งเน้นให้บริการลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญในสินเชื่อธุรกิจรายย่อยและการสนับสนุน SME โดยใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาบริการ เพื่อความสะดวกของลูกค้า พร้อมทั้งมุ่งมั่นในการเป็นธนาคารที่น่าเชื่อถือ และได้มีการพัฒนาช่วยเหลือสังคม